44
จักรกฤษณ์ สิริริน
Thesis, Dissertation, Research, IS (Independent Study), ดุษฎีนิพนธ์, วิทยานิพนธ์, ภาคนิพนธ์, สารนิพนธ์, Project จบ ปัญหาพิเศษ, รายงานวิจัย, บทความวิจัย, บทความวิชาการ, เอกสารวิชาการ, รายงาน, การบ้าน ฯลฯ
จะเรียกชื่ออะไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ต้องลงมือทำด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นงานเดี่ยว หรืองานกลุ่ม แต่ในโลกนี้ คงมีประเทศไทยที่เดียวกระมัง ที่มี ‘การว่าจ้าง’ ให้ทำสิ่งที่ผมเขียนเอาไว้ทั้งหมดเมื่อสักครู่ มีงานจ้าง และมีคนรับจ้าง แม้กระทั่ง ‘รับจ้างทำการบ้าน’ ผมคิดว่า ศธ. สพฐ. สอศ. สกอ. สมศ. โดยเฉพาะ สกอ.หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เอาเวลามาตรวจจับ ‘ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ ยังจะมีประโยชน์ต่อวงการวิชาการ และแวดวงการอุดมศึกษา มากกว่าเอาเวลาไปบ้าคลั่งกับการตรวจจับ ‘การเขียน มคอ.’ และสภามหาวิทยาลัยของสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่ง ก็ควร Take action ในประเด็น ‘ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ ให้มากกว่านี้ ซึ่งหากทำได้จะช่วยล้างคำครหา ‘สภาตรายาง’ อย่างที่มีผู้ดูถูกดูแคลน รวมถึงผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา ตั้งแต่อธิการบดีลงมา ก็ควรใส่ใจปัญหานี้มากกว่าที่เป็นอยู่ ที่สำคัญก็คือ ข้อสังเกตที่ว่า อาจมีอาจารย์ในมหาวิทยาลัยบางแห่งเป็นเจ้าของเครือข่าย ‘ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ เสียเอง ยังไม่นับข้อสงสัยที่ว่า ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาบางแห่งรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่ เพราะก็เป็นที่ ‘รู้ๆ กันอยู่’ ว่าทุกวันนี้ มีถ้อยคำเสียดสีเกี่ยวกับการเปิดหลักสูตรในระดับบัณฑิตศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ประมาณว่า ‘จ่ายครบ จบแน่’ คือบางแห่งแทบไม่มีการสอบเข้า และการทดสอบในขั้นตอนต่างๆ ก็เข้าข่าย ‘หยวนๆ’ ที่สำคัญก็คือ ตอนจะให้จบก็ยังไม่เข้มงวดกับวิทยานิพนธ์ว่าเป็นการจ้างทำวิทยานิพนธ์มาหรือไม่ แปลไทยเป็นไทยก็คือ เข้าข่าย ‘ฮั้ว’ กันระหว่างลูกค้าคือนักศึกษาปริญญาโท ปริญญาเอก และพ่อค้าแม่ขายคือสถาบันอุดมศึกษา
ทุกวันนี้ ‘ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ เหิมเกริมมาก ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาแต่ละคน ทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ ทั้งประสบการณ์และความรู้ต้องมีมากกว่าเด็กประถม เพราะเด็กประถมสมัยนี้ค้น Google กันไวยิ่งกว่ามือลิง ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาค้น Google คลิกเดียวก็จะเห็นความคึกคักของ ‘ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ ค้น Google คำว่า ‘รับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ คลิกปุ๊บ ‘ผลการค้นหาประมาณ 627,000 รายการ’ ก็จะปรากฏที่หน้าจอของท่านปั๊บ ค้น Google คำว่า ‘รับจ้างทำวิจัย’ คลิกปั๊บ ‘ผลการค้นหาประมาณ 241,000 รายการ’ ก็จะปรากฏที่หน้าจอของท่านปุ๊บ ท่านสามารถสืบสาวราวเรื่องเข้าไปในแต่ละเวบ แต่ละบล็อก แต่ละเฟซบุ๊ค แต่ละเพจ แต่ละกระดานข่าว ท่านไม่ต้องจ้างนักสืบ ไม่ต้องใช้หน่วยข่าวกรอง ไม่ต้องอาศัยไหว้วานใครเลย ท่านโทร. ท่านอี-เมล์ ท่านส่งเมสเสจทางอินบ็อกซ์ ท่านติดต่อเข้าไป ท่านก็จะได้ข้อมูล ว่าไผเป็นไผ
‘ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ มีตั้งแต่ รับจ้างทำ Thesis, รับจ้างทำ Dissertation, รับจ้างทำ Research, รับจ้างทำ IS (Independent Study), รับจ้างทำดุษฎีนิพนธ์, รับจ้างทำวิทยานิพนธ์, รับจ้างทำภาคนิพนธ์, รับจ้างทำสารนิพนธ์, รับจ้างทำ Project จบ, รับจ้างทำปัญหาพิเศษ, รับจ้างทำรายงานวิจัย, รับจ้างทำบทความวิจัย, รับจ้างทำบทความวิชาการ, รับจ้างทำเอกสารวิชาการ, รับจ้างทำรายงาน, รับจ้างทำการบ้าน ฯลฯ ลุกลามบานปลายไปจนกระทั่งถึง ‘รับจ้างอาจารย์’ ทำวิจัยในชั้นเรียน ทำผลงานวิชาการ ทำสื่อการสอน ทำ CAI ที่ยังขาดอยู่ก็คือรับจ้างออกข้อสอบ รับจ้างตรวจข้อสอบ และรับจ้างตัดเกรด แต่ผมคิดว่าอีกไม่นานก็คงจะมี
‘ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ มีตั้งแต่ รับจ้างทำโครงร่างวิทยานิพนธ์ หรือ Proposal, รับจ้างทำบทที่ 1, รับจ้างทำบทที่ 2, รับจ้างทำบทที่ 3, รับจ้างทำบทที่ 4, รับจ้างทำบทที่ 5 ไปจนถึง ‘รับจ้างทำเฉพาะบท’ หรือ ‘เหมาหมด’ ทั้ง 5 บท หรือรับจ้างทำเฉพาะบทที่ 4 และรับจ้างทำเฉพาะบทที่ 5 บางเวบไซต์ มีการประกาศว่า ‘รับจ้างหาหัวข้อวิทยานิพนธ์’ บางแห่ง ประกาศ ‘รับจ้างทำบทที่ 2’ คือการทบทวนวรรณกรรม หรือ Literature Review เพื่อช่วยนักศึกษาปริญญาโท ปริญญาเอก สืบค้นเอกสารต่างๆ ตามที่ต้องการให้ได้อย่างครบถ้วนกระบวนความ บางเวบ บอก ‘รับทำจ้างทำบทที่ 3’ คือการออกแบบกลวิธีการวิจัย วางแผนให้ทุกขั้นตอน กระทั่งเขียนโมเดลการวิจัยให้ก็มี บางแห่ง บอก ‘รับจ้างทำบทที่ 4’ และ ‘บทที่ 5’ คือการ ‘รับจ้างเคาะข้อมูล’ ซึ่งหมายถึงการคีย์แบบสอบถามการวิจัย, การประมวลผลการวิจัย และการวิเคราะห์ผลการวิจัย ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น SPSS, EQS, LISREL, AMOS, MPLUS ฯลฯ บางเวบเสนอตัวสอนการแปลผลการวิจัย, อ่านผลการวิจัย และนำเสนอผลการวิจัย ไปจนกระทั่งอาสาเขียนข้อวิจารณ์ สรุปผลการวิจัย ถึงขนาดเขียนเสนอแนะให้ก็มี บางแห่ง ประกาศรับเขียนบทคัดย่อทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ และก้าวหน้าไปถึงขั้นภาษาจีนก็มี ขณะที่อีกบางแห่งประกาศรับทำวิทยานิพนธ์ภาษาอังกฤษก็มี
ที่สำคัญก็คือ มีการประกาศรับจ้างเขียนบทความวิจัยเป็นภาษาอังกฤษ ทำ Presentation ภาษาอังกฤษ และเตรียมเอกสารภาษาอังกฤษ เพื่อการไปนำเสนอผลงานวิจัยในเวทีวิชาการนานาชาติ ก็ยังดีที่ไม่รับจ้างไปนำเสนอให้ที่เมืองนอก บางเวบไซต์ ปวารณาตัวเป็นติวเตอร์ สอนทำ Presentation สอนการเตรียมเอกสาร และช่วยซักซ้อมการตอบคำถามปากเปล่าในวันสอบ Defense วิทยานิพนธ์ หรือ ‘สอบปกป้องวิทยานิพนธ์’ หรือที่เรียกกันว่า ‘สอบจบ’ ผมมีข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหา ‘ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ สองประเด็น
หนึ่ง, สถาบันการศึกษาต้องเข้มงวดในการทำวิทยานิพนธ์ อาจารย์ที่ปรึกษาต้องประกบติดนักศึกษาเริ่มตั้งแต่ Proposal จนถึงบทที่ 1 บทที่ 2 บทที่ 3 บทที่ 4 บทที่ 5 ซึ่งทุกบทต้องเรียกนักศึกษามาอธิบายที่มาที่ไป อาจารย์ที่ปรึกษาต้องเล่นบทมือสอบสวนเหมือนตำรวจกองปราบฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันสอบจบ คณะกรรมการสอบต้องให้นักศึกษา ‘รันโปรแกรม’ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลให้ดู และซักถามทุกขั้นตอนของการวิเคราะห์และการอ่านผลการวิเคราะห์ และถ้าจับได้ว่านักศึกษาได้ทำการว่าจ้างทำวิทยานิพนธ์ก็ปรับตก หรือ Retire
สอง, หน่วยงานราชการที่กำกับดูแลสถาบันอุดมศึกษา ต้องลงพื้นที่ไปตรวจจับ ‘ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ ผมเชื่อว่า 100 ทั้ง 100 ล้วนเป็น ‘คนในแวดวงวิชาการ’ ทั้งนั้นแหละครับ ใครมันจะไปทำวิทยานิพนธ์หรือทำวิจัย ทั้งทำได้และทำเป็น แต่เมื่อยังไม่มีมาตรการทางกฎหมาย เพราะกฎหมายเมืองไทยมันไดโนเสาร์เต่าล้านปี ก็ต้องใช้มาตรการทางสังคมกดดัน
ผมเสนอข้ามไปถึงขั้นถ้าได้ตัวผู้กระทำความผิด ก็ให้ย้อนไป ‘เพิกถอนปริญญา’ กลุ่มคนใน ‘ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ ทั้งหมด แต่กว่าจะไปถึงวันนั้น ผมอยากให้ข้อคิดเตือนใจ นักศึกษารุ่นใหม่ ที่คิดจะจ้างทำวิทยานิพนธ์ ว่าคุณไม่คิดหรือว่า วันหนึ่งข้างหน้า ‘ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์’ จะไม่ออกมาแฉ ว่าคุณจบ ดร. หรือคุณเป็นมหาบัณฑิตได้นั้น เพราะใคร?–จบ–
ที่มา: หนังสือพิมพ์เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 – 23 ก.ค. 2558–
ปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณในยุคดิจิทัลอย่างไรให้ปลอดภัย?
การรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่สำคัญมากในยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลหรือการใช้งานอินเทอร์เน็ตต่างๆ สิ่งสำคัญคือการทำให้ทุกอย่างปลอดภัยและอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณเอง 💻📱 🔑 3 ขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้: ไม่ว่าคุณจะใช้งานบนคอมพิวเตอร์หรือมือถือ การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์เริ่มจากการปกป้องตนเองวันนี้