“7 วิธีง่ายๆ ช่วยโฟกัสการอ่านหนังสือ”

“7 วิธีง่ายๆ ช่วยโฟกัสการอ่านหนังสือ”
เพื่อนๆ เป็นกันไหม? อยากจะอ่านหนังสือให้ให้สำเร็จ แต่ก็ฟุ้งซ่านจากสิ่งต่างๆ มากมาย เช่น โซเชียลมีเดีย กิจกรรมที่ชื่นชอบ หรือปัจจัยภายนอกอื่นๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เรามีเทคนิคดีๆ มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ลองนำไปทำตามกันดูค่ะ
7 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้โฟกัสการอ่านหนังสือให้ดีขึ้น …

1.ทำให้การอ่านหนังสือเป็นกิจวัตรประจำวัน
อย่างน้อยในระหว่างที่เพื่อนๆ เล่นโซเชียลลองหาบทความในอินเทอร์เน็ตอ่านสัก 1 บทความต่อวัน ไม่ว่าจะเป็นบทความสั้นหรือยาว เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรู้หรือสิ่งที่ชอบก็ได้ จะอ่านจริงจังหรือเพียงแค่อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน ก็นับว่าเป็นการอ่านทั้งสิ้นค่ะ เพื่อให้ตัวเองได้ซึมซับนิสัยรักการอ่านเวลาที่ต้องอ่านหนังสือเพื่อเรียนหรือสอบจะได้รู้สึกว่าการอ่านเยอะไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไปค่ะ

2.หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน
เสียงเรียกเข้าหรือเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์สามารถทำลายสมาธิของเพื่อนๆ ได้ เพราะฉะนั้นในระหว่างที่อ่านหนังสือควรปิดเสียงโทรศัพท์ไปเลย ไว้ถึงเวลาพักค่อยเช็คโทรศัพท์ทีเดียวจะดีกว่านะคะ ในข้อนี้รวมไปถึงสิ่งรบกวนอื่นๆ รอบตัวด้วยเช่นกัน เช่น มีเสียงดังรบกวนจากบุคคลอื่น แนะนำให้เพื่อนๆ ย้ายสถานที่ในการอ่านให้มีความสงบขึ้นจะดีกว่าค่ะ

3.พักบ้าง!
ควรมีเวลาพักให้ตัวเองด้วยหลังจากจดจ่อกับการอ่านหนังสือไปแล้ว 30 นาที แวะพักยืดเส้นยืดสาย เช็คโทรศัพท์ ทานของว่าง สัก 15 นาที หรือภายใน 1 ชั่วโมงพักเบรคสัก 1-2 ครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้าฝืนอ่านยาวๆ ทีเดียวให้จบ นอกจากเรื่องอ่านไปจะไม่เข้าหัวแล้ว อาจจะยิ่งทำให้เราไม่ชอบการอ่านหนังสือมากขึ้นไปอีกด้วย เพราะฉะนั้นแบ่งเวลาอ่านและพักด้วยนะคะเพื่อนๆ อย่าหักโหมจนเกินไป

4.จัดระเบียบการอ่าน
การทำตารางอ่านหนังสือจะช่วยให้การอ่านของเราเป็นระบบมากขึ้น แนะนำให้วางแผนว่าในแต่ละวันจะอ่านหัวข้อใด เวลาไหนบ้าง เพื่อให้เรามองเห็นภาพรวมและสามารถวางแผนเรื่องอื่นต่อได้อีก รวมไปถึงการจัดระเบียบด้วยการทำสรุป จดโน้ตสั้นๆ ตามที่เราเข้าใจ ก็จะช่วยให้เราไม่ต้องใช้เวลาอ่านเยอะในช่วงที่เวลามีจำกัด เช่นการอ่านหนังสือเพื่อไปสอบต่างๆ

5.สถานที่อ่านก็สำคัญ
ลองนึกภาพว่าคุณต้องไปอ่านหนังสือที่คาเฟ่ อยู่ท่ามกลางผู้คนที่พลุกพล่านและเสียงดัง การที่จะโฟกัสกับการอ่านหนังสือคงจะยากมาก เราแนะนำว่าให้อ่านหนังสือในบ้านหรือห้องส่วนตัวของตัวเองจะดีที่สุด จัดพื้นที่ในการอ่านให้ไม่รก สะอาด หรืออาจจะสร้างบรรยากาศด้วยการจุดเทียนหอมที่กลิ่นผ่อนคลาย พร้อมกับเปิดเพลงแนวผ่อนคลายคลอๆไปด้วย แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ชอบที่จะอ่านหนังสือที่คาเฟ่ลองเลือกร้านที่คนไม่เยอะ สงบ และบรรยากาศดีก็ได้ค่ะ

6.วางแผนและจัดลำดับความสำคัญ
หากเพื่อนๆ อยู่ในช่วงสอบ มีเนื้อหาที่จะต้องอ่านหลายบท แนะนำว่าให้เพื่อนๆ วางแผนว่าใน 1 วันจะอ่านวิชาใดบ้าง ควรจะอ่านวิชาไหนก่อน-หลัง และทำตามแผนที่ตั้งไว้ให้สำเร็จ การอ่านหนังสือของเพื่อนๆ ก็จะมีประสิทธิภาพและไม่ทำให้เพื่อนๆ เสียเวลาด้วยค่ะ

7.ฟังเพลง
เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่าการฟังนั้นมีประโยชน์ในการช่วยกระตุ้นสมองให้เกิดการจำ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงคลอๆ ในขณะที่อ่านหนังสือ ฟังบทสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาที่กำลังศึกษาอยู่ หรือการฟังแบบฝึกหัดเสียง สามารถช่วยเพิ่มระดับสมาธิและช่วยสร้างแรงจูงใจในการอ่านหนังสือ อีกทั้งยังช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายอีกด้วยค่ะ เพื่อนๆ ลองเลือกฟังเพลงที่เหมาะกับสถานการณ์ในขณะที่กำลังอ่านดูนะคะ

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ 7 วิธีที่แนะนำไปข้างบน ทั้งหมดนี้จะช่วยทำให้เพื่อนๆ มีความสุขกับการอ่านหนังสือมากขึ้นและส่งผลให้เราโฟกัสการอ่านหนังสือได้ดีขึ้น หวังว่าเพื่อนๆ จะลองนำวิธีเหล่านั้นไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองและทำให้การอ่านหนังสือมีประสิทธิภาพมากขึ้นนะคะ

You might also enjoy

ทำไมเราถึงต้องทำเล่มวิจัยจบ🤔?
ทำไมเราถึงต้องทำเล่มวิจัยจบ🤔?

1️⃣ทำให้เกิดความรู้ใหม่ ทั้งในด้านทฤษฎีและการปฏิบัติ 2️⃣ทำให้เข้าใจในปรากฏการณ์และพฤติกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น 3️⃣ช่วยวางแผนการดำเนินงานและนโยบายได้อย่างเหมาะสม 4️⃣ทำให้ทราบข้อเท็จจริง และนำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น 5️⃣ช่วยกระตุ้นการตั้งข้อสังเกต ความมีเหตุผล

โครงร่างวิจัยคืออะไร?
โครงร่างวิจัยคืออะไร ?

โครงร่างวิจัย คือ สิ่งที่ผู้ที่ได้อ่านโครงร่างจะสามารถทราบขั้นตอนและรายละเอียดของเล่มวิจัย รวมถึงใช้โครงร่างวิจัยเพื่อเป็นเครื่องมือในการพิจารณาอนุมัติการทำวิจัย โดยจะต้องเป็นสิ่งที่ผู้พิจารณาอนุมัติเชื่อว่าวิจัยเล่มดังกล่าวเป็นวิจัยที่มีระเบียบวิจัยที่ดี มีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ เป็นประโยชน์ และสมควรได้รับการอนุมัติ โดยจะประกอบไปด้วย 1.)

วิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)✏️
วิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)✏️

เป็นวิธีค้นหาความจริงจากเหตุการณ์และสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ตามความเป็นจริง โดยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์กับสภาพแวดล้อมจากภาพรวมของหลายมิติ ผู้ทำวิจัยต้องลงไปศึกษาและสังเกต กลุ่มหรือบุคคลที่ต้องการศึกษาโดยละเอียดในทุกด้านแบบเจาะลึก ใช้วิธีสังเกตแบบการมีส่วนร่วมและสัมภาษณ์ เก็บรวมรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเชิงเหตุผลไม่ใช่ทางตัวเลข ———————————— 📖รีเสิร์ซเชอร์ เพื่อนคู่คิดงานวิจัย💡

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย