10 เทรนด์ของโลกที่น่าจับตามองในปี 2022

อย่างที่รู้กันว่า.. ปี ค.ศ.2021 นี้ เป็นปีที่ทั่วโลกต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อก้าวผ่านวิกฤตโรคระบาด ในปี ค.ศ.2022 ที่กำลังจะถึง โลกก็จะยังต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็นผลจากวิกฤตในปีนี้ อย่างเช่นวิถีการทำงานและการท่องเที่ยวแบบใหม่ ไปจนถึงเทรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นและอาจทำให้เจอกับสถานการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน อย่างการผงาดขึ้นของจีนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็ว ดังนั้นในบทความนี้ เราได้รวบรวม 10 เทรนด์ของโลกที่น่าจับตามองในปี 2022

1. ประชาธิปไตย vs เผด็จการ (Democracy vs Autocracy)

ปีหน้าจะมีการเลือกตั้งมิดเทอมของอเมริกา และการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เราน่าจะได้เห็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญจากสองระบอบการเมืองจากสองขั้วมหาอำนาจของโลก ฝ่ายไหนจะสร้างความมั่นคง การเติบโต และนวัตกรรมได้มากกว่ากัน? ทั้งในด้านการค้าขาย การกำกับดูแลด้านเทคโนโลยี การพัฒนาวัคซีน ไปจนถึงเรื่องของสถานีอวกาศ

2. โรคระบาดใหญ่ที่กลายเป็นโรคประจำถิ่น (Pandemic to Endemic)

ในปีหน้า เราจะได้พบกับยาต้านไวรัสชนิดใหม่ การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันที่พัฒนาขึ้น และวัคซีนอื่นๆ ที่กำลังพัฒนาตามมา สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนในประเทศที่พัฒนาแล้ว ไวรัสจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตอีกต่อไป แต่มันจะยังคงก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงในประเทศกำลังพัฒนา เว้นแต่จะสามารถเพิ่มวัคซีนได้ และ COVID-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นอีกโรคหนึ่งที่สร้างความทุกข์แก่คนจน แต่ไม่ใช่คนรวย

3. เงินเฟ้อ ราคาของขึ้น (Inflation)

การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและความต้องการพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ราคาของทุกอย่างสูงขึ้นตามไปด้วย แม้ธนาคารกลางจะบอกว่าเป็นเรื่องชั่วคราว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อแบบนั้น มีการคาดเดาว่าสหราชอาณาจักรมีความเสี่ยงเป็นพิเศษที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซา เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานหลัง Brexit และการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติที่มีราคาแพง

4. อนาคตรูปแบบการทำงาน ทั้ง Hybrid Work และนโยบายต่างๆ (Future of Work)

หลายคนเห็นตรงกันว่า การทำงานในอนาคตจะเป็นรูปแบบไฮบริด และผู้คนจะทำงานจากที่บ้านมากขึ้น แต่ก็ยังมีประเด็นถกเถียงกันในรายละเอียดหลายอย่าง เช่นควรทำงานกี่วัน วันไหนบ้าง มันจะยุติธรรมทั้งกับพนักงานและธุรกิจหรือไม่ รวมถึงเรื่องของข้อตกลงด้านภาษี วิธีการวัดและประเมินพนักงานที่ทำงานจากทางไกลด้วย

5. การโต้กลับของกระแสความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (New Techlash)

หน่วยงานกำกับดูแลในอเมริกาและยุโรปพยายามที่จะควบคุมยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีมาหลายปีแล้ว แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าอย่างชัดเจนเท่าไหร่นัก ขณะที่ตอนนี้จีนกลับลงมือจัดการกับบริษัทเทคโนโลยีในประเทศด้วยการปราบปรามอย่างเด็ดขาด พร้อมกันนั้น ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ก็ต้องการผลักให้ทิศทางด้านเทคโนโลยีของประเทศ มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างการสร้างความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ไม่ใช่ด้านการพัฒนาเกมและช็อปปิ้งออนไลน์ แต่ก็ยังเป็นที่สงสัยว่ากลยุทธ์นี้จะส่งเสริมนวัตกรรมหรือยับยั้งพลวัตของอุตสาหกรรมจีนกันแน่

6. คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)

Cryptocurrency กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะเดียวกันก็จะถูกควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ บรรดาธนาคารเองก็กำลังพยายามที่จะเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของตนเองเพื่อรวมศูนย์อีกครั้ง ดังนั้นเราน่าจะได้เห็นการแข่งขันอย่างเข้มข้นขึ้นจาก 3 ฝ่ายหลักสำหรับอนาคตในวงการการเงิน นั่นก็คือกลุ่ม crypto-blockchain-DeFi บริษัทเทคโนโลยีเดิมๆ ที่พยายามจะเข้าสู่วงการ และบรรดาธนาคารกลาง

7. ปัญหาสภาพอากาศที่รุนแรง (Climate Crunch)

แม้ว่าไฟป่า คลื่นความร้อน และภัยน้ำท่วมจะเกิดบ่อยขึ้นในหลายๆ ที่ทั่วโลก แต่ยังขาดความเร่งด่วนอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพูดถึงนโยบายสำหรับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยิ่งไปกว่านั้น การลดการปล่อยคาร์บอนยังต้องการความร่วมมือระหว่างชาติตะวันตกและจีน ซึ่งดูจะเป็นไปได้ยากท่ามกลางการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้ปัญหาสภาพอากาศจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

8. ปัญหาธุรกิจท่องเที่ยว (Travel Trouble)

เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวเมื่อผู้คนเริ่มออกมาใช้ชีวิตอีกครั้ง แต่บางประเทศที่ยังยึดนโยบายการลดตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ให้เหลือศูนย์ อย่างเช่นออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ อาจต้องเผชิญกับความยากลำบากในการจัดการการเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกที่ไวรัสชนิดนี้กลายเป็นโรคประจำถิ่น ในขณะเดียวกัน ครึ่งหนึ่งของการเดินทางเพื่อธุรกิจก็หายไปอย่างถาวร นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับโลก แต่ไม่ดีสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน

9. การแข่งขันของธุรกิจเกี่ยวกับอวกาศ (Space)

ปี ค.ศ.2022 นี้จะเป็นปีแรกที่มีผู้คนจ่ายเงินให้กับบริษัทท่องเที่ยวอวกาศเพื่อเดินทางไปอวกาศมากขึ้น ทำให้มีการแข่งขันระหว่างบริษัทเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนจีนก็กำลังจะสร้างสถานีอวกาศใหม่เสร็จ ในขณะที่ผู้ผลิตภาพยนตร์กำลังแข่งขันกันสร้างภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับอวกาศเช่นกัน นาซ่าเองก็กำลังมีภารกิจพุ่งชนกลุ่มดาวเคราะห์น้อยเหมือนพล็อตภาพยนตร์ฮอลลีวูดยังไงยังงั้น

10. การเมืองในโลกฟุตบอล (Political Football)

โอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งและฟุตบอลโลกในกาตาร์ น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจให้ชาวโลกได้ว่า กีฬาอาจจะนำโลกมารวมกันได้อีกครั้ง ขณะเดียวกัน ก็อาจจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของการแข่งขันทางการเมืองก็ได้เมื่อเกมจบลง เป็นไปได้ว่าอาจมีการประท้วงที่มุ่งเป้าไปที่ทั้งสองประเทศเจ้าภาพ

และนี่คือ 10 เทรนด์ของโลกที่น่าจับตามองในปี 2022  หวังจะเพื่อนๆจะจับทางของเทรนด์และปรับตัวให้ทันหรือนำเทรนด์เพื่อต่อยอดสิ่งที่กำลังทำอยู่ให้ดียิ่งขึ้นไปอีกนะคะ เช่น นำเทรนด์เหล่านี้มาเป็นหัวข้อเขียนงานการวิจัยที่น่าสนใจเพื่อให้ผลประโยชน์จากผลลัพธ์การวิจัยต่อไปค่ะ

Credit: https://bit.ly/3oVtxO3

#เรียนวิจัย #รับติวสอบ #รับปรึกษางานวิจัย #ทำdissertation #ทำthesis #ทำวิทยานิพนธ์ #ทำวิทยานิพนธ์ปตรี #ทำวิทยานิพนธ์ปโท #ทำวิทยานิพนธ์ปเอก #สอนโปรแกรมSPSS #รับทำงานวิจัย #ที่ปรึกษางานวิจัย #รับทำดุษฎีนิพนธ์ #รับติววิทยานิพนธ์ #รับติวธีสิส #รับติวสารนิพนธ์ #รับติววิจัย #รับติวงานวิจัย #รับสอนวิทยานิพนธ์ #รับสอนธีสิส #รับสอนสารนิพนธ์ #รับสอนวิจัย #รับสอนงานวิจัย #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ #รับปรึกษาธีสิส #รับปรึกษาสารนิพนธ์ #รับปรึกษาวิจัย #รับปรึกษางานวิจัย #รับติววิทยานิพนธ์ปตรี #รับติววิทยานิพนธ์ปโท #รับติววิทยานิพนธ์ปเอก #รับสอนวิทยานิพนธ์ปตรี #รับสอนวิทยานิพนธ์ปโท #รับสอนวิทยานิพนธ์ปเอก #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปตรี #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปโท #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปเอก #สอนทำวิจัย ##รับสอนดุษฎีนิพนธ์ #รับติวดุษฎีนิพนธ์ #รับปรึกษาดุษฎีนิพนธ์ #ปรึกษาวิทยานิพนธ์ #ปรึกษาวิจัย #ปรึกษางานวิจัย #ทำวิจัยปโท #phdthesis #หัวข้อวิทยานิพนธ์ #รับทำdissertation #บริษัทรับทำวิจัย #รับเขียนบทความวิชาการ #thesiswriter #spssราคา #ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ #ทำวิจัยพยาบาล #รับปรึกษาวิจัย #ราคารับทำงานวิจัย

You might also enjoy

ทำไมเราถึงต้องทำเล่มวิจัยจบ🤔?
ทำไมเราถึงต้องทำเล่มวิจัยจบ🤔?

1️⃣ทำให้เกิดความรู้ใหม่ ทั้งในด้านทฤษฎีและการปฏิบัติ 2️⃣ทำให้เข้าใจในปรากฏการณ์และพฤติกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น 3️⃣ช่วยวางแผนการดำเนินงานและนโยบายได้อย่างเหมาะสม 4️⃣ทำให้ทราบข้อเท็จจริง และนำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น 5️⃣ช่วยกระตุ้นการตั้งข้อสังเกต ความมีเหตุผล

โครงร่างวิจัยคืออะไร?
โครงร่างวิจัยคืออะไร ?

โครงร่างวิจัย คือ สิ่งที่ผู้ที่ได้อ่านโครงร่างจะสามารถทราบขั้นตอนและรายละเอียดของเล่มวิจัย รวมถึงใช้โครงร่างวิจัยเพื่อเป็นเครื่องมือในการพิจารณาอนุมัติการทำวิจัย โดยจะต้องเป็นสิ่งที่ผู้พิจารณาอนุมัติเชื่อว่าวิจัยเล่มดังกล่าวเป็นวิจัยที่มีระเบียบวิจัยที่ดี มีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ เป็นประโยชน์ และสมควรได้รับการอนุมัติ โดยจะประกอบไปด้วย 1.)

วิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)✏️
วิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)✏️

เป็นวิธีค้นหาความจริงจากเหตุการณ์และสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ตามความเป็นจริง โดยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์กับสภาพแวดล้อมจากภาพรวมของหลายมิติ ผู้ทำวิจัยต้องลงไปศึกษาและสังเกต กลุ่มหรือบุคคลที่ต้องการศึกษาโดยละเอียดในทุกด้านแบบเจาะลึก ใช้วิธีสังเกตแบบการมีส่วนร่วมและสัมภาษณ์ เก็บรวมรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเชิงเหตุผลไม่ใช่ทางตัวเลข ———————————— 📖รีเสิร์ซเชอร์ เพื่อนคู่คิดงานวิจัย💡

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย