ทักษะที่ควรมีแห่งปี 2023

ทักษะที่ควรมีแห่งปี 2023

ต้องยอมรับว่าเรากำลังอยู่และเติบโตกันในยุคที่ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อชีวิตของพวกเรา จะขยับตัวทำอะไรแต่ละอย่าง หันไปทางไหนก็จะสังเกตเห็นได้ว่าเทคโนโลยีนั้นมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันเราเสมอ

หลาย ๆ คนก็ต้องปรับตัวให้ทันตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงแทบตลอดเวลา โดยเฉพาะในโลกของการทำงาน หลายองค์กรเริ่มที่จะนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยจัดการหลายเรื่อง ดังนั้นจึงทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้นมาก แอดมินจึงรวบรวมข้อมูล “ทักษะที่ควรมีแห่งปี” มาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านและลองศึกษาเพิ่มเติมกันค่ะ

1.)ทักษะด้าน Digital

โดยเฉพาะในเรื่องของการทำการตลาดออนไลน์ ถือเป็นช่องทางโปรโมทสินค้าและบริการขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือใหญ่ ล้วนให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะเราจะต้องสื่อสารกับลูกค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ เนื่องจากผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าไม่ว่าจะอยู่ไกลกันแค่ไหน หากเพื่อน ๆ ที่มีทักษะที่เกี่ยวกับดิจิทัลจะถือว่าได้เปรียบกว่าคนที่ไม่ถนัดระดับนึงเลยค่ะ

2.)ทักษะด้าน Creative

ต้องยอมรับกันว่าการผลิตสื่อและคอนเทนต์นั้นก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบกราฟิก UX/UI เพราะว่าเมื่อดิจิทัลมีความสำคัญสิ่งที่จะใช้สื่อสารกับผู้บริโภคนั้นก็จะสำคัญตามไปด้วย การออกแบบกราฟิกเพื่อใช้เป็นสื่อโฆษณา การออกแบบ UX/UI สำหรับผู้บริโภคเมื่อเข้าชมเว็บโซต์ของเรา ซึ่งถือว่าเป็นหน้าเป็นตาขององค์กรเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคได้รับจากเราเป็นสิ่งแรกเลย

3.)ทักษะด้าน Data Analysis

Data หรือ ข้อมูลจำนวนมหาศาลนั้นเป็นตัวการขับเคลื่อนโลกแห่งดิจิทัล ทักษะที่สำคัญก็หนีไม่พ้นในเรื่องของการวิเคราะห์และสื่อสารจากข้อมูลเหล่านั้นให้สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยให้องค์กรมองเห็นภาพรวมในหลาย ๆ เรื่อง ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลด้านการขาย สถิติสินค้าหรือบริการที่ขายดีที่สุด ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการโฆษณา เป็นต้น ทำให้ระดับผู้บริหารมองเห็นภาพรวม หากมีปัญหาจะได้หาแนวทางแก้ไขและรับมือต่อไป หากเป็นสถิติที่ดีก็หาทางรักษามาตรฐานและส่งเสริมนั่นเอง

4.)ทักษะด้าน Growth Mindset

การพัฒนาศักยภาพของตนเองเป็นเรื่องที่ดี สามารถยกระดับความสามารถได้มากขึ้น โดยอาจจะพัฒนาเพิ่มเติมในด้านที่เรามีความสนใจหรือคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสายงานที่เราทำอยู่ ก็จะช่วยให้เรามีข้อได้เปรียบกับคู่แข่งคนอื่น ๆ นั่นเอง

5.)ทักษะด้าน Emotional Intelligence

ความฉลาดทางอารมณ์ คือการเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ รวมถึงกับผู้อื่นด้วย เพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดี สร้างบรรยากาศการทำงานเชิงบวก หากองค์กรมีคนที่ Toxic จะทำให้เกิดความกดดันและความเครียดต่อพนักงานคนอื่น ๆ ในองค์กรได้ จนทำให้บางคนเกิดอาการหมดไฟ เบื่องาน จนถึงขั้นซึมเศร้าก็เป็นได้ ความเป็นจริงคือหากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้มันยากที่จะแก้ที่คนอื่น หากเรามีทักษะนี้จะทำให้เราสามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้จนรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมไม่มากก็น้อยนั่นเอง

ทักษะที่กล่าวมาข้างบนเหล่านี้แอดมินคิดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านหลาย ๆ ท่าน หากสนใจทักษะด้านไหนลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาพัฒนาเป็นทักษะติดตัวเพื่อสร้างความได้เปรียบต่อคู่แข่งได้จำนวนไม่น้อยเลย หากเป็นประโยชน์แอดมินจะนำข้อมูลมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันในบทความต่อ ๆ ไปค่ะ แล้วพบกันนะคะ

————————————

📖รีเสิร์ซเชอร์ เพื่อนคู่คิดงานวิจัย💡

✨สอบถามข้อมูลทำวิจัย และจองคอร์สเรียน ติดต่อ:

.

📲Line: @ResearcherTH 

หรือกดลิงค์ shorturl.asia/pqG9V

.

🌐Website: https://researcherthailand.co.th

.

📲Tel: 096-789-9662 หรือ 064-914-1562

.

🎥Youtube: www.youtube.com/@researcherthailand

.

🎥Tiktok: @ResercherThailand

.

#วิจัย #งานวิจัย  #วิทยานิพนธ์ #วิจัยจบ #เล่มจบ #สอนทำวิจัย #รับสอนทำวิจัย #เรียนทำวิจัย #คอร์สสอนทำวิจัย #คอร์สติวออนไลน์ #คอร์สตัวต่อตัว #ปริญญาโท #วิจัยตัวร้าย #ทักษะที่ควรมี #ทักษะในการทำงาน #ทักษะที่ได้เปรียบ

.

ขอบคุณ 𝘭𝘦𝘢𝘳𝘯.𝘤𝘰.𝘵𝘩, 𝘵𝘳𝘶𝘴𝘵-𝘷𝘪𝘴𝘪𝘰𝘯.𝘤𝘰

You might also enjoy

ทำไมเราถึงต้องทำเล่มวิจัยจบ🤔?
ทำไมเราถึงต้องทำเล่มวิจัยจบ🤔?

1️⃣ทำให้เกิดความรู้ใหม่ ทั้งในด้านทฤษฎีและการปฏิบัติ 2️⃣ทำให้เข้าใจในปรากฏการณ์และพฤติกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น 3️⃣ช่วยวางแผนการดำเนินงานและนโยบายได้อย่างเหมาะสม 4️⃣ทำให้ทราบข้อเท็จจริง และนำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น 5️⃣ช่วยกระตุ้นการตั้งข้อสังเกต ความมีเหตุผล

โครงร่างวิจัยคืออะไร?
โครงร่างวิจัยคืออะไร ?

โครงร่างวิจัย คือ สิ่งที่ผู้ที่ได้อ่านโครงร่างจะสามารถทราบขั้นตอนและรายละเอียดของเล่มวิจัย รวมถึงใช้โครงร่างวิจัยเพื่อเป็นเครื่องมือในการพิจารณาอนุมัติการทำวิจัย โดยจะต้องเป็นสิ่งที่ผู้พิจารณาอนุมัติเชื่อว่าวิจัยเล่มดังกล่าวเป็นวิจัยที่มีระเบียบวิจัยที่ดี มีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ เป็นประโยชน์ และสมควรได้รับการอนุมัติ โดยจะประกอบไปด้วย 1.)

วิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)✏️
วิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)✏️

เป็นวิธีค้นหาความจริงจากเหตุการณ์และสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ตามความเป็นจริง โดยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์กับสภาพแวดล้อมจากภาพรวมของหลายมิติ ผู้ทำวิจัยต้องลงไปศึกษาและสังเกต กลุ่มหรือบุคคลที่ต้องการศึกษาโดยละเอียดในทุกด้านแบบเจาะลึก ใช้วิธีสังเกตแบบการมีส่วนร่วมและสัมภาษณ์ เก็บรวมรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเชิงเหตุผลไม่ใช่ทางตัวเลข ———————————— 📖รีเสิร์ซเชอร์ เพื่อนคู่คิดงานวิจัย💡

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย