ก่อนตัดสินใจต้องรู้ ข้อดีข้อเสียการเรียนปริญญาเอก

ถึงเพื่อนๆที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเรียนปริญญาเอกดีไหม? ลองมาดูข้อดีข้อเสียของการเรียนปริญญาเอกกันอีกสักครั้งก่อนการตัดสินใจครั้งสุดท้ายนะคะ มันอาจทำให้อะไร ๆ ชัดเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ

“ข้อดี”

1. วิชาที่ถูกออกแบบมาเพื่อคุณ

เพื่อน ๆ จะได้เจาะลึกลงไปในขอบเขตที่ไม่คุ้นเคย จะได้ผลักดันตัวเองให้ลองสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์และอาจสร้างความแตกต่างได้ค่ะ

มันเปิดโอกาสให้เพื่อน ๆ ได้ใช้ศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของความคิดตัวเอง ค้นคว้าและวิจัย เพื่อน ๆ จะเป็นคนที่ขยายขอบเขตความรู้ของมนุษย์ในเรื่องที่ศึกษา

2. มุมมองต่อโลก

มุมมองของโลกที่เพื่อน ๆ เห็นจะเปลี่ยนไปตลอดกาลค่ะ มันไม่แปลกเลยที่เพื่อน ๆ จะเริ่มเห็นรูปแบบต่าง ๆ ที่เพื่อน ๆ เคยมองข้ามไป จะสามารถตีความหรือค้นพบแก่นของเรื่องราวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเองเลยทีเดียวค่ะ

3. ความรู้และทักษะ

เพื่อน ๆ จะมีทักษะการคิดวิเคราะห์ที่ดีขึ้นมาก ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับสาขาที่เลือกเรียนด้วยนะคะ แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือเพื่อน ๆ จะได้ลับสมอง ฝึกการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผลค่ะ และยังจะได้พัฒนาความสามารถในการถ่ายทอดไอเดียที่ซับซ้อนให้เป็นสิ่งที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายอีกด้วยค่ะ

4. ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนนักศึกษา

เพื่อน ๆ จะได้สร้างเครือข่ายกับผู้คนที่มาจากพื้นฐานที่แตกต่างกัน ได้ทำสิ่งที่แตกต่างร่วมกัน และคุณจะได้อยู่ในสิ่งที่แวดล้อมที่กระหายความรู้ ซึ่งมันเป็นทั้งเรื่องที่ท้าทายและช่วยเติมเต็มคุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ

5. ตารางเวลาที่ว่าง

มันจะไม่มีการรบกวนใด ๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น เพื่อน ๆ จะสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ ยิ่งถ้าตัวเองเป็นคนที่ชอบทำงานตอนกลางคืนเพราะสมองมันแล่นมากกว่า ก็จัดตารางให้ทำงานตอนดึกแทนไปเลยค่ะ !

6. ทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบ

เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่คะว่าสิ่งหนึ่งที่สุดในการเรียนปริญญาเอก ก็คือการที่เราได้มีโอกาสพัฒนาไอเดียของตัวเราเอง

มันมีคนไม่กี่คน หรือบริษัทไม่กี่บริษัทหรอกนะคะที่จะจ่ายเงินจ้างให้เพื่อน ๆ ทำงานโปรเจคของเพื่อน ๆ เอง

“ข้อเสีย”

1.ความไม่แน่นอนของการจ้างงาน

ถูกต้องแล้วล่ะค่ะ! ปริญญาเอกไม่ได้ช่วยให้คุณได้งานมากขึ้นนักหรอก

แม้แต่ในอนาคตก็เถอะ มันไม่ได้มีแนวโน้มการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเลยค่ะ จากผลการศึกษาที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าถึงแม้ว่านักศึกษาปริญญาเอกจะมีมากขึ้น แต่งานทางการศึกษาที่รองรับนักศึกษาปริญญาเอกโดยเฉพาะกลับมีน้อยลงค่ะ

2. รายได้ที่ไม่เพียงพอ

ทุนการศึกษาปริญญาเอกส่วนมากจะไม่ได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกอย่างของเรา มันมักจะมีเฉพาะค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าอยู่อาศัยเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อน ๆ จะต้องเริ่มคิดวางแผนหารายได้จากช่องทางอื่น เช่น งานฟรีแลนซ์หรืองานพาร์ทไทม์ แน่นอนว่านี่ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่เราต้องจัดการนอกเหนือไปจากการเรียนค่ะ

3. ความรู้สึกถูกตัดขาดจากครอบครัว

ยิ่งเพื่อน ๆ ได้เข้าไปฝังตัวในงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยมากเท่าไหร่ เพื่อน ๆ ก็จะยิ่งรู้สึกเหมือนถูกตัดขาดจากสังคมมากขึ้นเท่านั้น เนื่องด้วยเนื้อหาวิจัยของเราที่มีน้อยคนนักที่จะเข้าใจ คุณจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเขียนและทำวิจัยเพียงลำพัง ซึ่งอาจทำให้เกิดเส้นกั้นความรู้สึกกับคนรอบตัวของคุณเอง

4. ต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจน

คุณจะเริ่มสังเกตถึงความแตกต่างระหว่างเพื่อนของคุณที่อาจได้เลื่อนตำแหน่งถึงสองครั้งแล้ว ในขณะที่ตัวคุณเองกำลังเรียนหนังสืออยู่และคิดว่าจะเอาไงกับอนาคตดี

ถ้าคุณได้มีโอกาสออกไปสังสรรค์กับเพื่อนนอกมหาวิทยาลัย หัวข้อการสนทนาจะเป็นเรื่องลูก ๆ และวันหยุด และเพื่อน ๆ ของคุณก็อาจจะถามคำถามว่า “แล้วนี่จะเรียนจบเมื่อไหร่ละ?” แน่นอนว่าคำตอบของคุณจะต้องไม่ชัดเจนอย่างแน่นอนค่ะ

5. ไม่มีหัวหน้างาน แต่ก็อาจไม่ได้งานเช่นกัน

จากในข้อดีที่ได้พูดไปแล้ว การไม่มีหัวหน้างานทำให้เกิดความอิสระขึ้น แต่ในทางกลับกันเพื่อน ๆ ก็จะต้องทำงานเพียงลำพัง ไม่มีคนคอยชี้แนะหรือบอกว่าเราต้องทำอะไรก่อนหลัง ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อน ๆ จะต้องเจอกับงานวิจัยที่ยุ่งยากที่ไม่มีใครเคยศึกษามาก่อนค่ะ

6. ชีวิตรัก

เพื่อน ๆ จะสามารถรับรู้ได้ทันทีที่เริ่มเรียนปริญญาเอกว่าความรักกับการเรียนปริญญาไปด้วยกันได้ยากมาก

แม้ว่าคุณจะมีคนรักของคุณอยู่แล้ว คุณก็จะพบว่ามันเป็นไปได้ยากที่จะรักษาระดับความสัมพันธ์ไว้ให้คงเดิม แฟนของคุณจะต้องอดทนกับการหายหน้าหายตาไปของคุณให้ได้ค่ะ

สรุปโดยรวม

ไม่ว่าคุณจะคิดเห็นอย่างไรกับการเรียน แต่การเรียนปริญญาเอกก็เป็นการสร้างต้นทุนแห่งปัญญา ก่อนที่คุณจะได้มาซึ่งความภูมิใจนั้นคุณจะต้องต่อสู้อย่างหนักและข้ามผ่านมันมาให้ได้หรืออาจจะต้องตกหลุมรักมันเลยทีเดียวค่ะ

…และแน่นอนว่าเพื่อน ๆ จะต้องอ่านหนังสือกันอย่างบ้าคลั่งกันเลยล่ะค่ะ !

You might also enjoy

ทำไมเราถึงต้องทำเล่มวิจัยจบ🤔?
ทำไมเราถึงต้องทำเล่มวิจัยจบ🤔?

1️⃣ทำให้เกิดความรู้ใหม่ ทั้งในด้านทฤษฎีและการปฏิบัติ 2️⃣ทำให้เข้าใจในปรากฏการณ์และพฤติกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น 3️⃣ช่วยวางแผนการดำเนินงานและนโยบายได้อย่างเหมาะสม 4️⃣ทำให้ทราบข้อเท็จจริง และนำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น 5️⃣ช่วยกระตุ้นการตั้งข้อสังเกต ความมีเหตุผล

โครงร่างวิจัยคืออะไร?
โครงร่างวิจัยคืออะไร ?

โครงร่างวิจัย คือ สิ่งที่ผู้ที่ได้อ่านโครงร่างจะสามารถทราบขั้นตอนและรายละเอียดของเล่มวิจัย รวมถึงใช้โครงร่างวิจัยเพื่อเป็นเครื่องมือในการพิจารณาอนุมัติการทำวิจัย โดยจะต้องเป็นสิ่งที่ผู้พิจารณาอนุมัติเชื่อว่าวิจัยเล่มดังกล่าวเป็นวิจัยที่มีระเบียบวิจัยที่ดี มีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ เป็นประโยชน์ และสมควรได้รับการอนุมัติ โดยจะประกอบไปด้วย 1.)

วิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)✏️
วิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)✏️

เป็นวิธีค้นหาความจริงจากเหตุการณ์และสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ตามความเป็นจริง โดยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์กับสภาพแวดล้อมจากภาพรวมของหลายมิติ ผู้ทำวิจัยต้องลงไปศึกษาและสังเกต กลุ่มหรือบุคคลที่ต้องการศึกษาโดยละเอียดในทุกด้านแบบเจาะลึก ใช้วิธีสังเกตแบบการมีส่วนร่วมและสัมภาษณ์ เก็บรวมรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเชิงเหตุผลไม่ใช่ทางตัวเลข ———————————— 📖รีเสิร์ซเชอร์ เพื่อนคู่คิดงานวิจัย💡

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย